ขับ NISSAN X-TRAIL “ตามรอยแค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ริมทะเลระนอง กับเกษตรกรอินดี้

  • March 14, 2018

      นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย พาผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางมาสำรวจความงดงามที่จังหวัดระนองพร้อมพบกับ คุณสุพจน์ กรประสิทธ์วัฒน์ ผู้ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้น้อมนำมาใช้กับธุรกิจกาแฟของตัวเขาเอง

 

        โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 และเป็นทริปปิดท้ายโครงการฯ คณะผู้บริหารของ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมใจร่วมเดินทางไปกับสื่อมวลชนนำโดย มร.ปีเตอร์ แกลลี รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร คุณนัยสิทธิ์ รัตนชมภู รองประธานสายงานบริหารซัพพลายเชน รวมทั้ง ดร.ลาวานยา วัดกอนเกอร์ รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย จำกัด

 

     คุณสุพจน์ ผู้ถูกขนานนามว่า “เกษตรกรอินดี้” ได้ประยุกต์ใช้ และปรับแนวคิดของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในเรื่องการพึ่งพาตนเองมาสู่ธุรกิจและชีวิตประจำวัน โดยได้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนภายใต้กิจการ “ก้อง วัลเลย์” ที่จังหวัดระนอง โดยใช้ความรู้ในเรื่องกาแฟ ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ และแรงจูงใจในการทำสิ่งที่แตกต่าง ด้วยแนวคิดดังกล่าว ธุรกิจจึงเติบโตขึ้นมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างแท้จริง ซึ่งสร้างความสนใจให้ผู้เข้าชมมากมายทั่วโลก

 

       คุณสุพจน์ได้นำทรัพยากรที่มีอยู่มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปลูกและผลิตกาแฟบนพื้นที่ที่มีอยู่แล้วของ ก้อง วัลเลย์ เพื่อต่อยอดรวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ตัวเองและชุมชนในท้องถิ่น พร้อมถ่ายทอดความรู้และความคิดของตนเองให้แก่ผู้คนมากมายในเรื่องของการเป็นตัวของตัวเองและการพึ่งพาตนเอง กระบวนการการคั่วและบดกาแฟกินเอง รวมถึงการประเมินและกำหนดราคาที่เหมาะสมให้กับผลิตภัณฑ์

     “แนวคิดของในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจและชี้นำให้ผมริเริ่ม ก้อง วัลเลย์ ซึ่งผมได้นำมาประยุกต์และปรับใช้คำสอนในเรื่องของการพึ่งพาตนเองของพระองค์ให้กับวิสาหกิจของผม ผมปลูกและผลิตกาแฟ โรบัสต้าเองเพื่อสร้างผลกำไรมากที่สุดโดยการบริหารกำลังคนที่มีอยู่ให้เหมาะสม เรามุ่งเน้นไปในสิ่งที่เรามีความถนัด และแบ่งหน้าที่ให้เหมาะสมตามความชอบและความสามารถของแต่ละคน” คุณสุพจน์กล่าว “เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ปลูกฝังวิถีของการพึ่งพาตนเองให้แก่ผู้คนและเฝ้าติดตามพวกเขาเพื่อเปิดร้านกาแฟของตนเองและกลายเป็นผู้ประกอบการเอง” คุณสุพจน์ กล่าวเสริม

                               

      การเดินทางตลอดสองวันนี้ที่ภาคใต้ของประเทศไทย เริ่มที่จังหวัดชุมพรก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดระนอง โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามระหว่างการขับรถยนต์ นิสสัน นาวารา ใหม่ และ นิสสันเอ็กซ์เทรลที่เต็มไปด้วยสมรรถนะในด้านต่างๆ

 

      นิสสัน นาวารา ใหม่ เป็นรถกระบะที่ขึ้นชื่อเรื่องของสมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.5 ลิตร และให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า พร้อมระบบส่งกำลังจากเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

 

     ทางด้าน นิสสัน เอ็กซ์เทรล ที่มีความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ เอ็กซ์เทรล เป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมกับที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ มีเครื่องยนต์ให้เลือกสองรูปแบบหลักๆ คือ เครื่องยนต์เบนซินที่มีรุ่นย่อยให้เลือกกับขนาดความจุ 2.0V ลิตร และ 2.5V ลิตร มีที่นั่งแบบ 3 แถว ลักษณะแบบ 5+2 ที่นั่ง และเครื่องยนต์ไฮบริดที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2.0V ลิตร โดยมีที่นั่งเป็นแบบ 2 แถว สำหรับรุ่น 2.5 ลิตร มาพร้อมพาโนรามิค ซันรูฟ (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ขับขี่กับผู้ร่วมการเดินทางเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามตลอดทาง

     ทั้งนี้ เอ็กซ์เทรลยังมาพร้อมกับเกียร์อัจฉริยะประสิทธิภาพสูง X-TRONIC CVT ใหม่ พร้อมระบบ Manual Mode 7 สปีด ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น

 

     มร.ปีเตอร์ แกลลี รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเดินทางครั้งนี้พิเศษมากเนื่องจากเป็นครั้งที่สิบและเป็นครั้งสุดท้ายของโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมา เราได้ร่วมงานกับบุคคลต้นแบบที่น่าชื่นชมซึ่งล้วนแล้วแต่น้อมนำคำสอนและแนวคิดของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมการเดินทางเหล่านี้ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความรู้ในคำสอนของพระองค์และสานต่อสิ่งที่เราได้รับมาไปสู่อนาคตอันใกล้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการที่ให้แรงบันดาลใจนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสานต่อคำสอนและภูมิปัญญาของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไปสู่รุ่นต่อไป” มร.ปีเตอร์ กล่าวเสริม

 

     เมื่อผู้ร่วมกิจกรรมได้เดินทางมาถึงวิสาหกิจชุมชน ก้อง วัลเลย์ นายสุพจน์ได้เล่าถึงเหตุผลที่เขาคิดว่าการพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือตนเองเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสคั่วและบดกาแฟเอง พร้อมกับลิ้มลองฝีมือของตัวเอง จากการร่วมทำกิจกรรมนี้และรับรู้เรื่องราวของคุณสุพจน์ โดยบุคคลต้นแบบท่านนี้หวังว่าผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับแรงบันดาลใจในการคิดว่าตัวเองก็สามารถเพิ่มศักยภาพและทักษะเพื่อเริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้เช่นกัน

 

       โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อสานต่อคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปทั่วประเทศ โครงการฯได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 และดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคม 2561 และนิสสันหวังว่าจะดำเนินโครงการฯต่อไปเพื่อคืนกลับสู่คนไทยและสังคม และเพื่อเคารพยกย่อง และสานต่อคำสอนและปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อไป

 

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

         แม้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว หลายๆ คนอาจเห็นหน้าค่าตากันมาบ้างตามท้องถนนแต่สำหรับส่วนตัวผม Nissan X-Trail คันนี้ก็ยังถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีจุดเด่นในตัวและมีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน ในส่วนของรูปลักษณ์ของรถหลายคนอาจมองว่า มีรูปทรงของรถที่ดูจะไม่วัยรุ่นออกผู้ใหญ่และดูไม่ค่อยทันสมัยแต่โดยส่วนตัวผมเองรู้สึกว่าการออกแบบรถคันนี้ ทางนิสสันทำได้ดีและทำให้ SUV คันนี้ หลุดจากกรอบเดิมๆ ในลักษณะแบบกล่องมาดูแข็งแรง บึกบึน แต่ให้ความหรูหรา

         บนเส้นทางการขับขี่ท่ามกลางวิวสวยงามของธรรมชาติป่าเขาและชายทะเลสวยๆจากชุมพรไป-กลับจังหวัดระนอง กว่า 400 กิโลเมตร ที่ผมมีโอกาสได้ทดลองขับและนั่งโดยสาร ต้องขอบอกว่า Nissan X-Trail คันนี้เป็นรถ SUV อีกหนึ่งคันที่นั่งโดยสารได้สะดวกสบาย จากห้องโดยสารที่กว้างและมีเนื้อที่มากขึ้น นั่งเหยียดแขนเหยียดขาได้สบายภายในรถ

       การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆภายในรถก็สามารถใช้งานได้ง่าย และดูลงตัวกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมถึงการมีระบบแอร์แบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวาและดูทันสมัยด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ 3 มิติ ที่แสดงข้อมูลเพียบพร้อมทั้งข้อมูลการขับขี่ในแบบ Real Time และการแสดงการทำงานของระบบขับเคลื่อนในรุ่น 4WD รวมถึงระบบ Nissan Connect ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆช่วยทำให้รถดู มีอะไรอะไรที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น

        ในเรื่องของพละกำลังของรถ แม้จะเป็นรถแบบ SUV แต่เหนือเรื่องอัตราเร่งและการขับขี่ก็ทำได้น่าประทับใจ สำหรับคันที่ผมทดสอบเป็นเครื่องยนต์แบบ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตรที่มาพร้อมกับระบบ Pure Drive Hybrid และคลัตช์คู่อัจฉริยะ ที่ให้กําลังและอัตราเร่งดีไม่แพ้เครื่องยนต์ ในรุ่น Body ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานได้ดีและนุ่มนวลจากระบบเกียร์ Xtronic CVT แบบ 7 Speed เป็นรถ SUV ที่ นั่งโดยสารทางไกลได้สบายสบายไม่เมื่อยล้า

        ความน่าสนใจของรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้อีกเรื่องก็คือ การติดตั้งระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้งและระบบช่วยลดอาการยนต์ตัวของรถบนทางขรุขระรวมไปถึงการติดตั้งกล้องช่วยมองรอบทิศทาง 360 องศา และประตูท้ายปิด-เปิดอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ก็ยิ่งทำไม่รถอเนกประสงค์จากนิสสันคันนี้ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นในท้องตลาด

 

      ขอขอบคุณภาพประกอบอันสวยงามในกิจกรรมครั้งนี้โดยกล้องโกโปร จากบริษัท เมนทาแกรม จำกัด และบริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้การสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูงตลอดการเดินทาง