All New Mazda CX-8 2.5 SP ตัวท็อปรุ่นเบนซิน มีดีที่นุ่ม นั่งสบายและช่วงล่างหนึบ

  • June 26, 2020

      เคยขับรถใหม่อเนกประสงค์ All New Mazda CX-8 คันนี้ บนเส้นทางเชียงใหม่ถึงเชียงราย รวมระยะกว่า 280 กิโลเมตร บนเส้นทางตามแนวเขา พร้อมโค้งต่างๆ เพื่อให้ได้สัมผัสถึงระบบต่างๆที่ Mazda CX-8 พัฒนาเพื่อการเดินทางจริงๆ ตามที่บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดการทดสอบแบบกลุ่มขึ้น

     ในครั้งนี้มีโอกาสได้ลองขับทดสอบเดี่ยวโฟกัสในรุ่นตัวท็อปรุ่นเบนซิน เพื่อพิสูจน์ความความคุ้มค่าต่อการใช้งาน สำหรับคนที่ไม่ได้เน้นต้องการรถฟังก์ชั่นเยอะ เพียงต้องการรถ 7 ที่นั่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครอบครัวใหญ่ที่จัดสรรตำแหน่งทุกเบาะ ในเบาะแบบ 3 แถวทำได้ดีสำหรับรองรับการโดยสารจริงๆ ตามเทรนด์ความนิยมรถในกลุ่ม SUV มีกระแสที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้งานที่หลากหลายมากกว่ารถเก๋ง อย่างใน CX-8 รุ่น 2.5 SP คันนี้

 

พัฒนาขึ้นจากจุดเด่นของ Mazda CX-5 และพื้นฐานของ Mazda CX-9

        All New Mazda CX-8 ถูกพัฒนาขึ้นใหม่เฉพาะ เป็นการรวมเอาจุดเด่นของ Mazda CX-5 และพื้นฐานจาก Mazda CX-9 และพัฒนาขึ้นใหม่กลายมาเป็น Mazda CX-8 นั่นเอง ทำให้มีมิติตัวรถยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. มีน้ำหนักรถโดยเฉลี่ย 1,781-1,924 กก. และความจุถังน้ำมัน 72 และ 74 ลิตร(รุ่น XDL EXCLUSIVE) ในแต่ละรุ่น และถือว่าเป็นการเปิดตลาดรถใน Segment ใหม่ในประเทศไทย เพราะ ด้วยขนาดรถที่มีความใหญ่เทียบเท่ารถในกลุ่ม PPV แต่ให้การขับขี่เหมือน SUV

       รูปลักษณ์ภายนอกของ All New Mazda CX-8 ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบภายใต้ปรัชญา KODO Design : Soul of Motion ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่งดงาม กับคอนเซปต์ “Less is More” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง Signature Wing พร้อมกรอบกระจังหน้าโครเมียมที่ติดโลโก้ Mazda ตรงกลาง ไฟหน้า Projector แบบ LED ใหม่

       ดีไซน์กันชนหน้าหรูหราเส้นสายสปอร์ตแต่จะไม่มีไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ที่มีเฉพาะในรุ่นท็อปสุด รุ่น 2.2 XDL EXCLUSIVE ส่วนของด้านท้ายคล้ายกับ Mazda CX-9 ไม่ว่าจะเป็นคิ้วขอบไฟท้าย LED Signature ตรงกลางฝากระโปรงพร้อมตำแหน่งโลโก้ที่ต่ำลงมา และล้ออัลลอยดีไซน์เอกลักษณ์ขนาด 19 นิ้ว สีโครเมี่ยมรมดำ พร้อมยาง 225/55 R19

 

ภายในดูพรีเมี่ยม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง

        ในส่วนของภายในของ Mazda CX-8 รุ่น 2.5 SP  มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง ส่วนดีไซน์ และการออกแบบห้องโดยสารนั้นจะมาในรูปแบบเดียวกันในทุกรุ่นย่อย ได้แก่ ห้องโดยสารโทนสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุ Real Wood ที่ดูเหมือนเนื้อไม้แท้ผสมกับสีเงินซาตินโครมที่ให้ความรู้สึกที่หรูหราและพรีเมี่ยม

       พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ติดตั้งจอกลางความบันเทิงแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ก็รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect พร้อม Apple CarPlay และ Android Auto ได้และยังสามารถควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander  บริเวณถัดลงมาจากเกียร์

      แผงประตูเลือกใช้วัสดุแบบ Soft Touch ส่วนเบาะนั่งจะเป็นแบบหนัง Nappa แท้ สีแดง Deep Red ที่ให้ความภูมิฐาน และรองรับกระชับทุกสรีระ ลดอาการเมื่อยล้าในทุกที่นั่ง ส่วนคู่หน้าจะมาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri Zone โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 นั้น จะมีแผงควบคุมอุณหภูมิแยกโซน

       สำหรับเบาะแถวที่ 2 พนักพิงเองก็สามารถปรับเอนได้หลายระดับ การออกแบบเบาะเหมือนกันกับเบาะคู่หน้า ที่เน้นจุดซัพพอร์ตสรีระร่างกายส่วนต่างๆ เพื่อการนั่งโดยสารที่เป็นท่าทางธรรมชาติเพื่อความสบายและสามารถเลื่อนหน้าถอยหลัง  และยังปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้วน้ำ และช่องเก็บของพร้อมช่องเสียบชาร์จไฟ USB

        ในเรื่องความสบายในการนั่ง นอกจากความสบายของเบาะที่นั่งแล้ว Mazda CX-8 ยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri Zone ที่ผู้โดยสารแถวกลางสามารถควบคุมระบบปรับอากาศเองได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระดับพัดลม อุณหภูมิ ตำแหน่งการเป่าลมได้

       ส่วนในตำแหน่งของเบาะนั่งแถวที่ 3 นั้น ลองแล้วนั่งได้จริงครับ ไซซ์ผู้ใหญ่สูง174 ซม. แบบผม เข้าไปนั่ง เบาะก็รองรับได้สบายๆ แม้แอร์จะมาไม่ถึงแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด แต่ในตำแหน่งเบาะแถวที่ 2 อาจจะต้องขยับไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ผู้นั่งแถว3 วางเท้าได้ สะดวกขึ้น และสามารถปรับพับแยกได้แบนราบแบบ 50:50  เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระในด้านท้าย

       ออพชั่นที่ All New Mazda CX-8 เวอร์ชั่นตัวท็อปเบนซิน  รุ่น 2.5 SP  แตกต่างจากในรุ่นท็อปสุดอย่าง XDL Exclusive นั้น ก็จะมีระบบเสียงรอบทิศทางของ Bose 10 ตำแหน่ง, ม่านบังแดดที่ประตูคู่หลัง, เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat (6 ที่นั่ง) แยกซ้าย-ขวา พร้อมคอนโซลกลาง, ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มเข้ามา

 

เครื่องยนต์เบนซิน 194 แรงม้า ให้อารมณ์การขับ คล้าย Mazda CX- 5 แต่นุ่มนวลและสบายกว่า

      ตามสเปกเครื่องยนต์ใหม่สำหรับ CX-8 มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบครับ คือ สกายแอคทีฟดีเซล และ สกายแอคทีฟ เบนซิน แต่ละแบบ เครื่องยนต์มีให้เลือกเครื่องยนต์ละ 2 เกรด ในบล็อกเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.5 ลิตร ในรุ่น SP นี้ เป็นแบบเดียวกับ CX-5 ก็ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม 

      จากการทดลองขับเมื่อผมนั่งในตำแหน่งคนขับบอกเลยครับว่า อารมณ์ความเป็นหนุ่มใหญ่ที่มีความร้อนแรงอยู่ในตัว ผ่านการกดแป้นคันเร่งแล้วรอบดีดขึ้นทันที พละกำลังที่เรียกออกมาสมกับที่มี 194 แรงม้า เกียร์ก็ทำงานไวตามสั่ง เป็นรถคัน ยาว ใหญ่ แต่ก็ขับได้แรง สนุกและเฉียบคม ไม่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางเดินทางไกล ทั้งในเมือง หรือทางขึ้น-ลง บนภูเขา ก็ทำงานได้ดี โดยที่ไม่รู้สึกเลยว่ากำลังขับรถที่ยาวเกือบ 5 เมตร

       อัตราเร่งที่ทันใจให้การตอบสนองที่ดี รีดกำลังได้สูงสุด 194 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 258 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า จับคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด โดยในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินนี้เองจะมาพร้อมสวิทซ์การปรับโหมดการขับขี่ที่บริเวณข้างตำแหน่งเกียร์ แน่นอนว่าถ้าเทียบพละกำลัง ของตัวรถ สมรรถนะโดยรวมอาจจะไม่ดีเท่ากับตัวเครื่องยนต์ในรุ่นดีเซล แต่ เครื่องยนต์ 2.5 เบนซินก็มีดีที่อัตราเร่งตีนต้น ถ้าใครที่ชอบแรงบิดสูงเรียกมาทุกรอบ ลากได้ยาวๆ น่าจะถูกใจครับ 

 

ใหญ่เทียบเท่ารถในกลุ่ม PPV แต่ให้การขับขี่เหมือน SUV

       การนั่งโดยสาร ของ Mazda CX-8 รุ่น 2.5 SP SKYACTIV-G ที่เป็นแบบ 7 ที่นั่งนั้น เบาะนั่งคู่หน้าค่อนข้างที่จะใหญ่ มีการออกแบบตำแหน่งซับพอร์ตส่วนต่างๆ ของร่างกายหลายจุดครับ โดยเฉพาะช่วงบริเวณเอวและเหนือขึ้นมา พร้อมส่วนของบริเวณต้นขา ที่เวลานั่งจะรู้สึกได้ว่ามีเบาะนุ่มๆ รองรับส่วนของสรีระช่วงต่างๆ เอาไว้ซึ่งการออกแบบได้เน้นให้การนั่งโดยสารอยู่ในท่าทางที่เป็นธรรมชาติ เพื่อความสบายในการนั่งโดยสารและขับขี่ เหมือนกับคอนเซปต์ที่ใช้ใน Mazda3 การเก็บเสียงในความเร็วสูงก็ทำได้ดี

     ข้อดี ข้อเด่น และถือเป็นข้อได้เปรียบ คู่เปรียบเทียบในรถระดับใกล้เคียงกัน คือ ระบบความปลอดภัยของ มาสด้า CX-8 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ i-Activsense โดยระบบความปลอดภัยที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย รวมถึงการเป็นรถที่มีตัวถังแบบ โมโนค็อกในขณะที่ PPV ที่มีพื้นฐานมาจาก ปิกอัพที่ใช้แชสซีส์และแหนบซึ่งช่วงล่างการควบคุมจะมีความกระด้างมากกว่า

     ฉะนั้นความนุ่มนวลใน Mazda CX-8 การควบคุมและแฮนเดอริ่งในภาวะต่างๆ ในการขับจะใกล้เคียงขับรถเก๋งมากกว่า เพราะระบบช่วงล่างเป็นคอล์ยสปริงสตรัท และการติดตั้งระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) จึงมั่นใจได้ กับการใช้รถคันนี้เดินทางไกลๆ แบบครอบครัว เพราะรถยังมีอาการนิ่งและควบคุมได้ดี การออกแบบช่วงล่างของมาสด้าถือว่าเซ็ตมาให้นั่งได้นุ่มสบายมาก ถ้าเทียบกับรถในกลุ่ม PPV

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

       Mazda CX-8 นับเป็นรถเอนกประสงค์ในพิกัดรุ่นพี่ไซซ์ใหญ่สุดในอนุกรมตระกูล CX ของมาสด้า และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกตามเทรนด์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่การวางตำแหน่งทางการตลาดที่มาสด้าตั้งใจไว้นั้นคือผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการเดินทาง และมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันบนรถได้อย่างสะดวกสบายครับ รวมถึงการขับใช้งานในชีวิตประจำวันก็ยังดูดีได้

     ตัวเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ก็รองรับใช้งานดีครับ เครื่องยนต์ตอบสนองดีต้นจัดปลายไหลใช้ได้เลย แม้จะไม่มีแป้น Paddle Shift ระบบเกียร์แบบแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัยมาให้เป็นออพชั่น แต่ความมันส์ในการขับโดยรวมก็จัดว่าโอเค จะใช้งานแบบเดินทางทั่วไป หรือบางฟีลอย่างซิ่งทำความเร็วบางก็ทำได้ดี ไม่มีอาการแบกน้ำหนัก แม้จะเป็นรถอเนกประสงค์ใน แบบบิ๊กไซซ์

  เชื่อเลยครับว่าถ้าใครที่ต้องการ มองหารถที่มีขนาดใหญ่ จะเดินขึ้นเดินลงเปิดเข้าเปิดออกสะดวก ห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย อุปกรณ์ต่างๆ ดูหรู เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถนั่งได้จริง และโดดเด่นถูกใจหลังจากได้ลองขับใช้งานคือช่วงล่างที่ดีที่สุดสำหรับ รถในกลุ่มของมาสด้าให้ความนุ่ม นั่งขับและโดยสารสบายๆ ไม่กระด้าง CX-8  คันนี้น่าจะตอบโจทย์ ของคุณได้ครบ

 ปิดท้ายที่ประเด็นเรื่องราคา เชื่อว่าคงมีหลายคน ที่มองหารถแนวนี้ นอกจากจะเปรียบเทียบราคา CX-8 กับแบรนด์รถคู่แข่ง ถ้าเทียบกับรถอเนกประสงค์แบรนด์คู่แข่งรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อกลางๆ ที่มีพื้นฐานจากรถกระบะ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Fortuner, Ford Everest และ Mitsubishi Pajero Sport ราคาเปรียบเทียบแล้วไม่แพงกว่ากันมาก แต่ได้รถที่มีแพลทฟอร์มและคาแร็คเตอร์แตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาดแล้ว

ถ้ามองเปรียบเทียบกันเองกับ CX-8 ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลที่มี 2 เกรด รุ่นย่อยคือ XDL 2.2 และรุ่นท็อปคือ รุ่น XDL EXCLUSIVE 6 ที่นั่ง ที่หลายคนบ่นว่าราคาแอบแรง  และยิ่งทำให้ Mazda CX-8 ในรุ่นตัวท็อปเบนซิน 2.5 SP 7 ที่นั่ง คันนี้ที่แม้ออพชั่นบางตัวจะมาไม่เต็มเท่ารุ่นท็อปเครื่องยนต์ดีเซลดูมีความน่าสนใจมากขึ้นครับ…

 

SPECIFICATIONS: Mazda CX-8 2.5 SP 

-เครื่องยนต์เบนซิน 2,488 CC

-แรงม้า 194 PS (143 กิโลวัตต์) / 6,000 รอบ/นาที

-แรงบิด 258 นิวตัน-เมตร / 4,000 รอบ/นาที

-เกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic

-น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว / แก๊สโซฮอล์ E10 E20 ออกเทน 95

รุ่นย่อยและราคาจำหน่าย Mazda CX-8

– รุ่น 2.5 S ราคา 1,599,000 บาท

– รุ่น 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท ****รุ่นที่ทำการทดสอบ

– รุ่น XDL ราคา 1,899,000 บาท

– รุ่น XDL Exclusive ราคา 2,069,000 บาท