ลองฟีลขับในสนามแข่งกับ Suzuki SWIFT GL MAX Edition

  • March 16, 2021

      ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เปิดตัว All New Suzuki SWIFT เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จุดเด่นในเรื่องคาแร็คเตอร์แบบรถแฮทช์แบ็ค ที่ดีไซน์ตำแหน่งใหม่สำหรับที่เปิดประตูด้านหลังให้อารมณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู และ เทคโนโลยีใหม่มากมาย ทั้งเครื่องยนต์แบบ DUALJET แพลทฟอร์มใหม่ HEARTECT และมาตรฐานความปลอดภัยที่เพิ่มเติมมาให้ ทำให้ Suzuki SWIFT มีความน่าสนใจในเซ็กเมนท์กลุ่มรถอีโคคาร์บ้านเรา

 

รุ่นพิเศษ แต่งดีไซน์ใหม่ หล่อเสร็จจากโชว์รูม

      ทาง Suzuki นำเอารถอีโคคาร์ Suzuki SWIFT มาตกแต่งใหม่หล่อจากโชว์รูมรุ่นพิเศษ และมี่ชื่อเรียกใหม่ว่า Suzuki SWIFT GL MAX Edition เพราะได้นำเอาพื้นฐานจาก Suzuki SWIFT รุ่นย่อย GL มาตกแต่งใหม่เพิ่มเติมรอบคัน พร้อมกับราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 5,000 บาท เป็นการกระตุ้นตลาดเรียกยอดขายอีกครั้ง

 

      มิติของตัวรถที่ดูภาพรวมแล้วกว้างขึ้น เน้นการออกแบบให้ดูสปอร์ตและปราดเปรียวมากขึ้น ด้านหน้าแนวขอบใต้กระจังหน้าสีดำนั้นถูกตัดเส้นด้วยสีแดง ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อม DRL ไฟตัดหมอกทรงกลม และไฟหลัง LED ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เส้นสายตัวรถยังคงเอกลักษณ์ในแบบของ SWIFT เสาหลังคาที่เป็นสีดำ และดีไซน์ตำแหน่งใหม่สำหรับที่เปิดประตูด้านหลังให้อารมณ์แบบรถสปอร์ต 2 ประตู

       ความพิเศษในรุ่น Suzuki SWIFT GL MAX Edition คือการใช้พื้นฐานมาจากรุ่นย่อย GL ตกแต่งด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่ มีชุดสเกิร์ตรอบคันด้านหน้าสีดำคัดกับดีไซน์กรอบทรงเหลี่ยมสีเงิน และด้านข้างสีดำตัดด้วยสีเงินรับกับชุดซุ้มล้อสีดำด้าน ส่วนขอด้านหลังเป็นสีดำดีไซน์ตรงกลางแบบรังผึ้ง พร้อมไฟสะท้อนแสงไฟทับทิมบริเวณกลางชุดกันชน ติดตั้งสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำด้าน ตกแต่งท่อไอเสียคู่เสริมความดุดันเร้าใจแบบโครเมี่ยม ทั้งนี้ ยังสร้างความแตกต่างโดดเด่นด้วยชุดสติ๊กเกอร์ Max Edition รอบคัน

      ส่วนสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีเทาอ่อน Star Silver Metallic, Mineral สีเทาเข้ม Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic จำหน่ายในราคาเพียง 541,000 บาท และสีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคา 546,000 บาท

 

แดชบอร์ดและภายในดีไซน์สปอร์ต

        มาตรวัดสไตล์สปอร์ตตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง พร้อมจอแสดงข้อมูล MID แบบ LCD ที่แสดงข้อมูลต่างๆ และเครื่องเล่นวิทยุแบบจอสัมผัส Suzuki Smart Connect ขนาด 7 นิ้ว ที่มีระบบนำทางกับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth พร้อม Apple CarPlay สำหรับ iOS ส่วนของระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติพร้อมจอ LCD แสดงสถานะตัวเลขการตั้งค่า ช่องแอร์กลางดีไซน์ใหม่มาแบบทรงกลม พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดสีดำตกแต่งด้วยสีเงิน ทรง D-shape ภายในเน้นโทนสีดำที่ตัดด้วยสีขาวทั้งบริเวณแดชบอร์ดและแผงประตูข้าง ทรงเบาะนั่งโอบกระชับสไตล์แบบรถแข่ง

 

เครื่องยนต์เบนซิน DUALJET 1.2 ลิตร เกียร์ CVT  สอบผ่าน ความคล่องตัว ในรูปแบบ Gymkhana

        เครื่องยนต์ยังคงไว้กับความเป็น Suzuki SWIFT รุ่น GL เครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดคู่ DUALJET รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT นับตั้งแต่การเปิดตัวในไทยครั้งแรก ยังทำให้การลองขับ Suzuki SWIFT GL MAX Edition รุ่นพิเศษนี้ที่สนาม Motor Sport Park Suvarnabhumi ในรูปแบบ Gymkhana ที่มีการจัดวางไพลอนเพื่อการกำหนดเส้นทางเอาไว้ภายในสนาม และบังคับให้ต้องมีการวิ่งไปตามเส้นทาง จากการขับในสนามครั้งนี้ เรียกได้ว่าทำให้เราได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมของรถอีกมุมหนึ่ง ที่แตกต่างจากรูปแบบในการใช้งานในชีวิตประจำวัน

 

 

AFTER DRIVE BY KAN YENSABAI

       การได้มาสัมผัสฟีลลิ่งการขับกับรถใหม่รุ่นพิเศษ Suzuki SWIFT GL MAX Edition ภายในสนามกับการขับในรูปแบบ Gymkhana ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการแข่งขันรถที่ใช้พื้นที่ไม่มากเท่าการแข่งขันอื่นๆ แต่ต้องใช้ทักษะในการขับมาก รวมไปถึงตัวรถที่ต้องพร้อมตอบสนองได้ดั่งใจครับ

        แม้แต่ในการทดลองขับในรูปแบบ Gymkhana ครั้งนี้ จะลองปิดระบบ ESP  ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ติดตั้งมาให้ ที่จะทำงานต่อเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย ตัวระบบ ESP ก็ได้เข้ามาทำหน้าที่โดยอัตโนมัติเบรกล้อนั้นๆ ที่แยกการสั่งงานอิสระช่วยทำให้ขับรถผ่านโค้งไปได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะมีอาการท้ายออกหรือหน้าดื้อเลี้ยวไม่เข้า ระบบ ESP นี้ก็จะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อการทำเวลาและการขับขี่ที่เพิ่มฟีลลิ่งในการขับแต่รถก็ยังขับได้สนุกยังสามารถควบคุมรถได้ปลอดภัย

        น้ำหนักพวงมาลัยอยู่ในเกณฑ์ดี การหักเลี้ยวในวงแคบๆ แบบกะทันหันก็ให้ความมั่นใจได้ดี เรียกได้ว่ารถไม่ต้องแรงแบบมหาศาลก็สนุกตื่นเต้นได้ และเรื่องของทัศนวิสัยรอบคันเองก็ถือว่าดีมากๆ เพราะสามารถขับเข้าและหลบไพล่อนได้คมและคล่องตัว นอกจากนี้ ช่วงล่างของรถเองก็ยังให้การตอบสนองที่ดี เพราะภาพรวมของช่วงล่างนั้นถูกเซ็ตออกมาแนวสปอร์ต แต่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้ เชื่อว่าการใช้งานจริงในภาพรวมสำหรับผม Suzuki SWIFT GL MAX Edition ยังถือเป็นอีโคคาร์ที่ให้อารมณ์สนุกสนานในการขับขี่ ทั้งในการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง รวมถึงให้ความรู้สึกในการโดยสารที่สะดวกสบายควบคู่กันด้วยครับ